โปรไบโอติกไซเดอร์ อาหารเสริมของมนุษย์คีโต (Probiotic Cider for Ketogenic consumers)
ช่วงนี้กระแสการรับประทานอาหารคีโต (Ketogenic Food) ฮิตและมาแรงอย่าบอกใคร ด้วยความสำเร็จในการกินคีโตเพื่อลดและควบคุมน้ำหนัก ทำให้คนที่รับประทานอาหารคีโตที่เน้นกลุ่มอาหารจำพวกไขมัน (70%) และโปรตีน (25%) ทำให้การปรับตัวในกระบวนการย่อยอาหารกับการทำงานของร่างกายในช่วงที่รับประทานคีโตมีการเปลี่ยนไป หลายคนที่เริ่มทานคีโตใหม่ๆ ระบบย่อยอาหารยังปรับไม่คงที่ ส่วนใหญ่กลุ่มนี้จะเลือกซื้ออาหารหรืออาหารเสริมกลุ่มที่ช่วยในการปรับสมดุลลำไส้ ช่วยย่อย และเพิ่มจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร มารับประทานระหว่างวัน ฟรุ๊ตไซเดอร์ (Fruit Cider) หรือที่สมัยใหม่นิยมเรียกว่าโปรไบโอติก (Probiotic Cider) เป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้รับประทานคีโตเนื่องจากสามารถควบคุมพลังงานระหว่างวันได้ดี ตรงตามข้อแนะนำของการรับประทานคีโตที่ให้ดื่มเครื่องดื่มประเภทไซเดอร์จากผลไม้ (Fruit Cider / Probiotic Cider) ได้
ฟรุ๊ตไซเดอร์ (Fruit Cider) หรือที่สมัยใหม่นิยมเรียกว่าโปรไบโอติก (Probiotic Cider) นั้น รู้จักกันในนามน้ำส้มสายชูหมักจากน้ำผลไม้ซึ่งขึ้นกับว่าจะใช้ผลไม้ชนิดใดในกระบวนการหมัก ในประเทศไทยนั้น ฟรุ๊ตไซเดอร์ (Fruit Cider) หรือโปรไบโอติก (Probiotic Cider) ที่นิยมมากที่สุด คือ แอ๊ปเปิ้ล ไซเดอร์ไวนิกา (Apple Cider Vinegar) เนื่องจากนิยมรับประทานในประเทศโซนยุโรปและอเมริกามาหลายสิบปีในการปรับสมดุล ลำไส้ ย่อยอาหาร และที่หลายคนนำไปใช้เพื่อลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักจากการรับประทานอย่างต่อเนื่องในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ลดความอยากอาหารและไม่ค่อยหิวระหว่างวัน แต่เนื่องจากแอ๊ปเปิ้ล ไซเดอร์ไวนิกา (Apple Cider Vinegar) ส่วนใหญ่เป็นผลไม้จากต่างประเทศและเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าทำให้เริ่มมีการคิดค้น ฟรุ๊ตไซเดอร์ (Fruit Cider) หรือโปรไบโอติก (Probiotic Cider) น้ำส้มสายชูหมักจากผลไม้ในประเทศไทยมากขึ้น เช่น ไซเดอร์จากน้ำมะพร้าว (Coconut Cider) ไซเดอร์จากลิ้นจี่ (Lychee Cider) หรือไซเดอร์จากกล้วย (Banana Cider) เป็นต้น
คนที่รับประทานฟรุ๊ตไซเดอร์ (Fruit Cider) หรือโปรไบโอติก (Probiotic Cider) สม่ำเสมอแล้วมักสามารถรับประทานฟรุ๊ตไซเดอร์ (Fruit Cider) หรือโปรไบโอติก (Probiotic Cider) แบบเพียวๆ หรือเป็นช็อต (shot drinks) แล้วดื่มน้ำตามได้ แต่บางคนถ้ารับประทานฟรุ๊ตไซเดอร์ (Fruit Cider) หรือโปรไบโอติก (Probiotic Cider) แล้วมีปัญหาแสบท้องจากการรับประทานของเปรี้ยวจัดหรือเป็นกรดไหลย้อนอยู่ ไม่สามารถรับประทานฟรุ๊ตไซเดอร์ (Fruit Cider) หรือโปรไบโอติก (Probiotic Cider) แบบเพียวๆ ได้ ส่วนใหญ่ผู้รับประทานกลุ่มนี้มักรับประทานฟรุ๊ตไซเดอร์ (Fruit Cider) หรือโปรไบโอติก (Probiotic Cider) ผสมน้ำเพื่อเจือจางความเข้มข้นของไซเดอร์หรือน้ำส้มสายชูหมักลง หรือเจือจางแล้วผสมน้ำผึ้งเพื่อให้รับประทานง่ายขึ้น และได้คุณประโยชน์ของน้ำผึ้งอีกทาง อย่างไรก็ดีแม้ว่าน้ำผึ้งจะเป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติแต่ก็ยังนับเป็นกลุ่มของคาร์โบไฮเดรต ผู้รับประทานคีโตควรเลือกรับประทานฟรุ๊ตไซเดอร์ (Fruit Cider) หรือโปรไบโอติก (Probiotic Cider) ในแบบที่เหมาะกับร่างกายและการดำเนินชีวิตประจำวันของตัวเองมากที่สุดโดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย
บทความนี้เป็นสิขสิทธิ์ของบริษัท สิริพีย์ จำกัด ท่านใดนำไปเปลี่ยนแปลงทำซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตหรืออ้างอิงบทความหลักบนเพจ มีผลทางกฎหมายสูงสุด
หน้าที่เข้าชม | 7,081 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 5,507 ครั้ง |
เปิดร้าน | 21 ก.พ. 2562 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |